CHART WATCHLIST คืออะไร |
สำหรับนักลงทุนสายเทคนิคหรือผู้ที่มองหาโอกาสเทรดระยะสั้น การหาหุ้นที่ “ส่งสัญญาณเคลื่อนไหว” ในช่วงท้ายตลาดถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรในจังหวะที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น โดยเฉพาะในช่วงตลาดซึม หรือไม่มีข่าวเด่นชัด การใช้สัญญาณทางเทคนิคสามารถช่วยสร้างกลยุทธ์ที่อิงกับพฤติกรรมราคาได้อย่างมีแบบแผน
หน้า CHART WATCHLIST นี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอ “โพยหุ้นรายวันก่อนตลาดปิด” ใน Timeframe day ที่ผ่านการวิเคราะห์หุ้นไทยทางเทคนิคโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ PhillipCapital โดยสรุปหุ้นเด่นที่น่าจับตา และหุ้นที่ควรเฝ้าระวัง แบ่งออกตามรูปแบบสัญญาณที่ชัดเจน พร้อมอัปเดตรายชื่อใหม่ทุกวันให้ทันต่อการตัดสินใจ
CHART WATCHLIST คืออะไร ?
CHART WATCHLIST คือรายการสรุปหุ้นเด่นก่อนตลาดปิดประจำวันที่นำเสนอผ่านมุมมองทางเทคนิค โดยทีมวิเคราะห์หุ้นไทยของ PhillipCapital ได้ใช้เครื่องมือเชิงเทคนิคเพื่อจำแนกหุ้นออกเป็น 3 กลุ่มสัญญาณเด่นหลัก ๆ ได้แก่
- หุ้น Breakout ขึ้นแข็งแรง
หุ้นที่เพิ่งทะลุแนวต้านสำคัญด้วยมูลค่าการซื้อขายที่สูงขึ้น สะท้อนแรงซื้อต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของขาขึ้นรอบใหม่
- หุ้นพักตัวสวย
หุ้นที่อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น แต่มีการปรับตัวลงเล็กน้อยเพื่อสะสมแรงก่อนพุ่งต่อ การพักตัวในลักษณะนี้มักเกิดขึ้นในรูปแบบ Flag หรือ Pennant ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่บ่งบอกถึงการสะสมพลังงานก่อนที่ราคาจะเคลื่อนตัวขึ้นต่อไป
- หุ้นที่ MACD ตัดขึ้นเส้น Signal หรือเส้นศูนย์
เมื่อเส้น MACD ตัดขึ้นมาเหนือเส้น Signal Line บนกราฟรายวัน แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมจากเชิงลบเป็นเชิงบวก สัญญาณนี้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญ เนื่องจากมีความแม่นยำในการบ่งชี้จุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวขาขึ้น
- รายชื่อหุ้นที่ต้องเผ้าระวัง เนื่องจากราคาอาจเสียทรง หรือปรับตัวลงแรง
นอกจากหุ้นที่แสดงสัญญาณเชิงบวกแล้ว CHART WATCHLIST ยังรวมถึงรายชื่อหุ้นที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากรูปทรงของชาร์ตราคาอาจเปลี่ยนไปหรือปรับตัวลงแรง การระบุหุ้นเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มเสี่ยงสูงได้

กลยุทธ์การลงทุนที่สามารถนำมาปรับใช้กับหุ้นใน CHART WATCHLIST
การเห็นสัญญาณทางเทคนิคจากการวิเคราะห์หุ้นไทยเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการวางแผนเข้า–ออกอย่างมีวินัย เนื่องจากเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนสัญญาณให้กลายเป็นกำไรได้ นักลงทุนจึงควรจับคู่ “รูปแบบสัญญาณ” กับ “กลยุทธ์ลงทุน” ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและสไตล์ของตนเอง
กลยุทธ์การบริหารเงินทุน
การแบ่งเงินลงทุนเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม โดยไม่ควรลงทุนเงินทั้งหมดในหุ้นเพียงตัวเดียวแม้ว่าสัญญาณจากการวิเคราะห์หุ้นไทยจะดูดีเพียงใดก็ตาม การกระจายความเสี่ยงผ่านการลงทุนในหุ้นหลายตัวที่มีสัญญาณดีจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวม
การกำหนด Stop Loss และ Take Profit
หุ้น Breakout ควรกำหนด Stop Loss ไว้ใต้แนวต้านเก่าประมาณ 3-5% และ Take Profit ที่ระดับ 1:2 หรือ 1:3 Risk Reward Ratio
สำหรับหุ้นพักตัวสวย ควรรอให้ราคาเริ่มพุ่งออกจากช่วงพักตัวก่อนเข้าลงทุน และกำหนด Stop Loss ไว้ใต้จุดต่ำสุดของการพักตัว
หุ้นที่มีสัญญาณ MACD ตัดขึ้น ควรรอการยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น และพิจารณาการเข้าลงทุนเป็นขั้นตอนเพื่อลดความเสี่ยง
การใช้ Timeframe หลายช่วงเวลา
แม้ว่า CHART WATCHLIST จะมุ่งเน้นไปที่ Timeframe รายวัน แต่การตรวจสอบสัญญาณในช่วงเวลาที่สั้นกว่า เช่น 4 ชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง จะช่วยให้การจับจังหวะเข้าลงทุนแม่นยำยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสาร
การติดตามข่าวสารและปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์หุ้นไทยทางเทคนิคจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้
สัญญาณทางเทคนิคจะไม่มีความหมายหากไม่มีแผนการลงทุนที่ชัดเจน บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกลุ่ม PhillipCapital จากสิงคโปร์ ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี พร้อมช่วยคุณเปลี่ยนสัญญาณทางเทคนิคให้กลายเป็นผลตอบแทนจริงด้วยเครื่องมือและคำแนะนำที่เหมาะกับแต่ละสไตล์ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนที่เริ่มต้นด้วยเงินทุนไม่มาก หรือเทรดเดอร์มืออาชีพ เรามีระบบ DCA รายเดือน เทรดหุ้นรายวัน และบทวิเคราะห์ทางเทคนิคที่อัปเดตทุกวัน พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่เปิดบัญชีจนถึงวางแผนกลยุทธ์
เปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่: https://aoo.poems.in.th/account/login/
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02 153 9222 หรือ LINE Official @PhillipCapital
